ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหานี้ได้เนื่องจากคุกกี้ถูกปิดใช้งาน หากต้องการเข้าถึงเนื้อหานี้ จำเป็นต้องเปิดใช้งานคุกกี้ โปรดคลิกปุ่มด้านล่าง เปิดใช้งานคุกกี้ แล้วรีเฟรชหน้านี้ คุณสามารถจัดการการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยใช้เครื่องมือตั้งค่าคุกกี้
การเลือกทรงผมให้ลูกชายสุดที่รักเป็นอีกหนึ่งความสุขของคุณแม่ เพราะทรงผมเด็กเท่ ๆ นอกจากจะช่วยเสริมลุคให้เจ้าตัวแสบดูหล่อขึ้น แล้วการเลือกทรงผมเด็กชายที่เหมาะสมจะช่วยเสริมบุคลิกและความน่ารักให้ลูกน้อยได้อีกด้วย แคร์ รวมไอเดียทรงผมเด็กผู้ชายยอดฮิตมาฝากคุณแม่กันแบบจัดเต็ม ครบทุกสไตล์ ตั้งแต่ผมสั้นสุดคูลไปจนถึงทรงวินเทจสุดคลาสสิก รับรองว่าต้องมีสักทรงที่ถูกใจคุณแม่และคุณลูกแน่นอนค่ะ!
ทรงผมสั้นเป็นทรงยอดฮิตตลอดกาล เพราะดูแลง่ายและเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยเป็นที่สุด รวมถึงลูกน้อยสายกิจกรรมของคุณแม่ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ชอบวิ่งเล่นซุกซนเป็นที่สุดค่ะ เรารวมทรงผมสั้นสำหรับเด็กชายที่คุณแม่สามารถนำไปเป็นไอเดียได้ตัดผมทรงใหม่ให้เจ้าตัวน้อยได้ตามนี้ค่ะ
ทรงผมเด็กนักเรียนชาย (School Cut): ทรงคลาสสิกที่นิยมตัดให้สั้นเกรียนด้านข้างและด้านหลัง ส่วนผมด้านบนจะยาวกว่าเล็กน้อย ทรงนี้ดูแลรักษาง่าย ดูแล้วเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน และน่ารักสมวัย
ทรงสกินเฮด (Skin Head): ทรงผมสั้นเกรียนทั้งศีรษะ เหมาะสำหรับเด็กที่ซนมาก ๆ เพราะดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องเซ็ตผม ให้ลุคดูหล่อ เท่ แต่แฝงความน่ารักแบบเด็ก ๆ เหมาะกับหนุ่มน้อยที่ขี้ร้อนและเหงื่อออกง่าย
ทรงผม (Buzz Cut): ทรงผมสั้นเกรียนทั้งศีรษะที่ตัดด้วยปัตตาเลี่ยน เป็นทรงผมที่ดูแลรักษาง่ายและให้ความรู้สึกเย็นสบาย เหมาะกับอากาศร้อน ๆ ทั้งยังตอบโจทย์เด็กชายที่ชอบลุคเท่ ๆ คูล ๆ ต้อนรับปิดเทอม เพราะสามารถปรับเปลี่ยนให้มีลูกเล่นหลากหลาย เช่น การเฟดด้านข้าง หรือการแกะลายได้
ทรงอันเดอร์คัต (Undercut): ทรงผมยอดนิยมของเด็กชาย ที่มักตัดด้านข้างและด้านหลังให้สั้นเกรียนจนเกือบถึงหนังศีรษะ ขณะที่ผมด้านบนปล่อยให้ยาวกว่าเพื่อให้คุณแม่จัดทรงได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเช็ตตั้ง เสยไปด้านหลัง หรือปาดไปด้านข้าง เพื่อให้ลุคดูเท่ ทันสมัย และคมเข้มมากขึ้น
ทรงเฟรนช์ครอป (French Crop): ทรงผมที่โดดเด่นด้วยผมด้านบนสั้นและปอยผมด้านหน้าสั้นเหมือนทรงม้าเต่อ ตัดด้านข้างสั้นไล่ระดับ (Fade) เพื่อให้ดูแลง่าย และสามารถจัดทรงให้ดูมีเท็กซ์เจอร์ได้ด้วยการใส่แว็กซ์เพียงเล็กน้อย ทรงนี้จะทำให้ลูกน้อยของคุณแม่ดูหล่อ เท่ และมีสไตล์ในเวลาเดียวกัน
ทรงผมสั้นเป็นทรงยอดฮิตตลอดกาล เพราะดูแลง่ายและเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยเป็นที่สุด รวมถึงลูกน้อยสายกิจกรรมของคุณแม่ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ชอบวิ่งเล่นซุกซนเป็นที่สุดค่ะ เรารวมทรงผมสั้นสำหรับเด็กชายที่คุณแม่สามารถนำไปเป็นไอเดียได้ตัดผมทรงใหม่ให้เจ้าตัวน้อยได้ตามนี้ค่ะ
ทรงผมเด็กนักเรียนชาย (School Cut): ทรงคลาสสิกที่นิยมตัดให้สั้นเกรียนด้านข้างและด้านหลัง ส่วนผมด้านบนจะยาวกว่าเล็กน้อย ทรงนี้ดูแลรักษาง่าย ดูแล้วเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน และน่ารักสมวัย
ทรงสกินเฮด (Skin Head): ทรงผมสั้นเกรียนทั้งศีรษะ เหมาะสำหรับเด็กที่ซนมาก ๆ เพราะดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องเซ็ตผม ให้ลุคดูหล่อ เท่ แต่แฝงความน่ารักแบบเด็ก ๆ เหมาะกับหนุ่มน้อยที่ขี้ร้อนและเหงื่อออกง่าย
ทรงผม (Buzz Cut): ทรงผมสั้นเกรียนทั้งศีรษะที่ตัดด้วยปัตตาเลี่ยน เป็นทรงผมที่ดูแลรักษาง่ายและให้ความรู้สึกเย็นสบาย เหมาะกับอากาศร้อน ๆ ทั้งยังตอบโจทย์เด็กชายที่ชอบลุคเท่ ๆ คูล ๆ ต้อนรับปิดเทอม เพราะสามารถปรับเปลี่ยนให้มีลูกเล่นหลากหลาย เช่น การเฟดด้านข้าง หรือการแกะลายได้
ทรงอันเดอร์คัต (Undercut): ทรงผมยอดนิยมของเด็กชาย ที่มักตัดด้านข้างและด้านหลังให้สั้นเกรียนจนเกือบถึงหนังศีรษะ ขณะที่ผมด้านบนปล่อยให้ยาวกว่าเพื่อให้คุณแม่จัดทรงได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเช็ตตั้ง เสยไปด้านหลัง หรือปาดไปด้านข้าง เพื่อให้ลุคดูเท่ ทันสมัย และคมเข้มมากขึ้น
ทรงเฟรนช์ครอป (French Crop): ทรงผมที่โดดเด่นด้วยผมด้านบนสั้นและปอยผมด้านหน้าสั้นเหมือนทรงม้าเต่อ ตัดด้านข้างสั้นไล่ระดับ (Fade) เพื่อให้ดูแลง่าย และสามารถจัดทรงให้ดูมีเท็กซ์เจอร์ได้ด้วยการใส่แว็กซ์เพียงเล็กน้อย ทรงนี้จะทำให้ลูกน้อยของคุณแม่ดูหล่อ เท่ และมีสไตล์ในเวลาเดียวกัน
ทรงผมรองทรง (Fade Hairstyle) เป็นทรงที่ได้รับความนิยมตลอดกาลสำหรับผู้ชายทุกวัย รวมถึงเจ้าตัวน้อยของคุณแม่ด้วยค่ะ เพราะเป็นทรงที่ดูสุภาพเรียบร้อย แต่ยังคงความทันสมัยในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญคือ ดูแลรักษาง่าย เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา แล้วยังเข้าได้กับทุกสถานการณ์ ตั้งแต่ไปโรงเรียนจนถึงวันหยุดพักผ่อนเลยค่ะ
รองทรงต่ำ (Low Fade): เป็นทรงที่ไถด้านข้างเพียงเล็กน้อยเหนือใบหู ทำให้ผมดูเป็นธรรมชาติและน่ารักสมวัย เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่คุณแม่ยังอยากให้ดูเรียบร้อย แต่ก็แอบมีสไตล์
รองทรงกลาง (Mid Fade): เป็นทรงที่ตัดด้านข้างและด้านหลังสั้นกว่าเส้นผมด้านบน โดยระดับความสั้นของฐานผมจะอยู่ที่ประมาณกลางศีรษะ ไม่สั้นจนเกินไปเหมือนรองทรงสูง และไม่ยาวเท่ากับรองทรงต่ำ ทำให้เกิดลุคที่ดูสุภาพเรียบร้อย และช่วยให้ศีรษะดูมีมิติมากขึ้น
รองทรงสูง (High Fade): เป็นทรงที่ไถด้านข้างขึ้นไปสูงถึงบริเวณขมับ ทำให้ผมด้านบนดูเด่นชัดขึ้น เหมาะสำหรับเด็กที่ต้องการลุคที่ดูทันสมัยและคล่องแคล่ว
ทรงผมเปิดข้าง (Side Part) เป็นทรงผมสุดฮิตที่ครองใจหนุ่ม ๆ ทุกวัย และเป็นทรงผมเด็กชายสไตล์เกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากคุณแม่ เพราะตัดแล้วดูน่ารัก สดใส และทันสมัย ไม่ว่าจะได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์เกาหลีหรือศิลปิน K-Pop ก็สามารถนำมาปรับให้เข้ากับเด็กผู้ชายได้ง่าย ๆ ทรงผมสไตล์นี้มักเน้นความพริ้วไหวของเส้นผม ความเป็นธรรมชาติ และการจัดแต่งที่ไม่ยุ่งยากจนเกินไป
ทรงทูบล็อก (Two Block): ทรงผมยอดฮิตตลอดกาลที่ตัดด้านข้างและด้านหลังให้สั้นเกรียน ส่วนผมด้านบนจะไว้ยาวกว่าเล็กน้อย ทรงนี้ให้ลุคดูทันสมัยและเข้าได้กับหลากหลายรูปหน้าเลยค่ะ
ทรงคอมม่า (Comma Hair): ทรงผมแสกข้างและม้วนปลายผมด้านหน้าให้โค้งงอเล็กน้อยคล้ายเครื่องหมาย Comma (,) รับรองว่า ลูกน้อยของคุณแม่จะหล่อน่ารักสไตล์พระเอกซีรีส์เกาหลีเลยล่ะ
ทรงเปิดข้างแบบรองทรง (Undercut Side Part): เป็นการนำทรงเปิดข้างมาผสมผสานกับเทคนิคการไล่ระดับความสั้นของผม (Fade) แต่จะตัดผมด้านข้างให้สั้นเกรียนหรือไถเปิดขึ้นสูงกว่า โดยไม่ไล่ระดับความยาวมากนัก ทรงนี้ให้ลุคดูเท่ คูล และหล่อบาดใจสุด ๆ ไปเลยค่ะ
** Care Share: ทรงผมสไตล์เกาหลีส่วนใหญ่จะเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่ไม่ทำให้ผมแข็งกระด้าง เช่น มูส หรือสเปรย์แบบบางเบา เพื่อให้ผมดูเป็นธรรมชาติและพริ้วไหว นอกจากนี้ การใช้ไดร์เป่าผมเพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้ผมด้านบนก็เป็นเทคนิคที่สำคัญ
สำหรับคุณแม่ที่อยากให้ลูกชายดูหล่อเนี๊ยบสไตล์คุณชาย ทรงวินเทจคือคำตอบ! เป็นทรงที่ต้องใช้การเซ็ตผมเล็กน้อย แต่รับรองว่าออกมาแล้วหล่อละลายแน่นอน
ทรงปอมปาดัวร์ (Pompadour): สำหรับเด็กผู้ชายที่มีผมหนาและชอบทรงผมที่ดูมีวอลลุ่ม ทรงนี้ดูจะตอบโจทย์คุณแม่และเจ้าตัวน้อยอย่างแน่นอนค่ะ โดยช่างจะเหลือผมด้านบนให้ยาวและยกโคนผมด้านหน้าให้สูงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นปัดไปด้านข้าง ทรงนี้ดูวินเทจและมีสไตล์แบบคูล ๆ แค่หวีเสยผมด้านหน้าให้มีวอลลุ่มพอง ๆ เจ้าตัวน้อยก็ดูหล่อละลายแล้วค่ะ
ทรงสลิคแบ็ค (Slicked Back): เป็นทรงผมที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1920-1930 และเป็นสัญลักษณ์ของสุภาพบุรุษที่ประสบความสำเร็จในยุคนั้น ปัจจุบันมีการผสมผสานกับสไตล์ Undercut ทำให้ทรงผมดูทันสมัยและเป็นที่นิยมในหมู่คนดังและวัยรุ่น โดยทรงสลิคแบ็คจะหวีผมทั้งหมดให้เรียบไปด้านหลัง จากนั้นใช้แว็กซ์หรือเจลจัดแต่งเพื่อความอยู่ทรง ทรงนี้ให้ลุคที่ดูเนี้ยบและวินเทจ เหมาะสำหรับเด็กผู้ชายที่มีเส้นผมตรงและไม่ชี้ฟู
ทรงเปิดข้างแบบคลาสสิก (Classic Side Part): ทรงผมที่เน้นความเรียบร้อยและดูเป็นธรรมชาติ โดยช่างจะตัดผมด้านข้างไม่ให้สั้นจนเกินไป และหวีผมด้านบนให้ปัดไปข้างใดข้างหนึ่งอย่างเป็นระเบียบ ทรงนี้เหมาะสำหรับเด็กที่ต้องการลุคสุภาพและเข้าได้กับทุกโอกาส
ทรงเปิดหน้าผาก (Forehead Reveal): เป็นทรงที่เซ็ตผมด้านหน้าให้ปัดไปด้านข้างหรือแสกกลางเพื่อโชว์หน้าผาก ทำให้ใบหน้าดูสว่างและโดดเด่นขึ้น ทรงนี้เหมาะสำหรับเด็กผู้ชายที่มีรูปหน้าสวยงามและต้องการให้ลุคดูโอปป้าหน้าใสครองใจสาว ๆ และเหล่าคุณแม่
** Care Share: การเลือกทรงผมวินเทจให้ลูกน้อยควรพิจารณาจากสภาพเส้นผม รูปหน้า และอุปนิสัยของเจ้าตัวน้อยเป็นหลักค่ะ เพราะทรงวินเทจอาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เช่น แว็กซ์หรือเจล ให้ผมอยู่ทรงตลอดวัน หากลูกน้อยของคุณแม่เป็นเด็กที่ชอบความเรียบง่ายและไม่ชอบเซ็ตผมบ่อย ๆ ทรงเปิดข้างแบบคลาสสิกอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าลูกชอบความโดดเด่นและพร้อมที่จะดูแลทรงผมอย่างเต็มที่ ทรงปอมปาดัวร์ หรือ ทรงสลิคแบ็ค ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
แม้การเลือกทรงผมให้ลูกชายจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็มีหลายปัจจัยที่คุณแม่ควรใส่ใจเพื่อให้ได้ทรงผมที่ดูดีและง่ายต่อการดูแลรักษา เรามีเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณแม่เลือกทรงผมที่เหมาะกับเด็กผู้ชายได้อย่างสมบูรณ์แบบมาฝากค่ะ
ถามความชอบของลูก: สิ่งสำคัญที่สุดคือการพูดคุยกับลูกน้อย เพราะเด็กแต่ละคนก็มีความชอบและสไตล์ที่แตกต่างกัน การให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกทรงผมของตัวเอง นอกจากจะช่วยให้เขารู้สึกดีและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
ไลฟ์สไตล์และกิจกรรมของลูกน้อย: ถ้าลูกเป็นเด็กซนและชอบเล่นกีฬา คุณแม่ควรเลือกทรงผมสั้นที่ดูแลรักษาง่าย เช่น ทรงรองทรง หรือ ทรงสกินเฮด เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเหงื่อและการจัดแต่งทรงผม แต่ถ้าลูกเป็นเด็กชอบแต่งตัวและมีกิจกรรมที่หลากหลาย คุณแม่สามารถเลือกทรงผมที่ดูดีมีสไตล์มากขึ้น เช่น ทรงทูบล็อก (Two Block), ทรงคอมม่า หรือ ทรงเปิดข้าง เพราะสามารถจัดแต่งได้หลายแบบ และเข้าได้กับหลายโอกาส
เลือกทรงผมให้เหมาะกับสภาพเส้นผม: สำหรับเด็กชายที่มีผมหนาและแข็ง แนะนำให้เลือกทรงผมที่ต้องตัดให้บางหรือไถด้านข้างให้สั้น เช่น ทรงอันเดอร์คัต หรือ ทรงรองทรง ส่วนผมเส้นเล็กและลีบแบน ควรเลือกทรงผมที่ช่วยเพิ่มวอลลุ่ม เช่น ทรงผมสั้นแบบคลาสสิค หรือ ทรงปอมปาดัวร์ แต่ถ้าลูกชายของคุณแม่มีผมหยักศกหรือผมหยิก การตัดผมสั้นก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเด็กผู้ชายผมหยักศก เพราะจะช่วยลดปัญหาผมพันกันและจัดทรงง่ายอีกด้วย
คำนึงถึงรูปหน้า: การตัดผมให้เข้ากับรูปหน้าเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ หากลูกชายของคุณแม่มีหน้ากลมหรือมีแก้มยุ้ย ควรเลือกทรงผมที่ช่วยให้ใบหน้าดูยาวขึ้น เช่น รองทรงสูง หรือทรงที่เปิดหน้าผากเล็กน้อย หากมีใบหน้าเหลี่ยมควรเลือกทรงผมที่ช่วยลดความเหลี่ยมของใบหน้า เช่น ทรงที่ตัดผมด้านข้างไม่สั้นมาก หรือทรงที่ไว้หน้าม้าเล็กน้อย และถ้าลูกน้อยมีหน้ารูปไข่ก็สามารถทำได้หลายทรง เพราะเป็นรูปหน้าที่สมดุลอยู่แล้ว จะตัดสั้นหรือไว้ผมยาวด้านบนก็ดูดีค่ะ
หากไม่แน่ใจว่าจะเลือกทรงไหนดี ลองหาภาพทรงผมต่าง ๆ ไปปรึกษาช่างตัดผมเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ เพราะช่างจะสามารถแนะนำทรงที่เหมาะสมกับลูกน้อยของคุณแม่ได้มากที่สุดค่ะ
แน่นอนว่า การมีทรงผมที่หล่อ เท่ และน่ารักสมวัย ต้องมาพร้อมสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะที่ดี ยิ่งสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเราทำให้เจ้าตัวน้อยเหงื่อออกง่าย หนังศีรษะอาจเกิดการอับชื้น คัน และระคายเคืองได้ง่ายเช่นกัน ยิ่งเด็กที่ไม่ค่อยอยู่นิ่ง ๆ ยิ่งทำให้มีเหงื่อและเส้นผมมีกลิ่นเหม็นเร็วขึ้นด้วยนะคะ มาดูเคล็ดลับในการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะของลูกกันดีกว่า
สระผมอย่างถูกวิธี: เลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนสำหรับเด็กและไม่จำเป็นต้องสระทุกวัน เพราะอาจทำให้หนังศีรษะแห้งเกินไป
เช็ดผมให้แห้ง: ทุกครั้งหลังสระผม คุณแม่ควรใช้ผ้าขนหนูนุ่ม ๆ ซับเบา ๆ จนผมแห้งสนิท เพื่อป้องกันความอับชื้น
โรยแป้งเด็กเพื่อให้หนังศีรษะแห้งสบาย: หลังจากเช็ดผมจนแห้งสนิทแล้ว ลองใช้ แป้งเด็กแคร์ คลาสสิค ทัลคัม ลูบไล้เบา ๆ บริเวณหนังศีรษะของลูกน้อยดูสิคะ เนื้อแป้งละเอียดของแคร์จะช่วยดูดซับความชื้นและเหงื่อบนหนังศีรษะ ทำให้ลูกรู้สึกแห้งสบายตัว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยลดการเสียดสีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือผดผื่น โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอยและหลังใบหู มาพร้อมกลิ่นหอมละมุนอันเป็นเอกลักษณ์ของแคร์ ที่ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสดชื่นและอารมณ์ดี ผ่านการทดสอบไฮโป-อัลเลอร์เจนิกทางการแพทย์สหรัฐอเมริกาแล้วว่าอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ เพียงเทลงบนฝ่ามือน้อย แล้วลูบเบา ๆ ให้ทั่วหนังศีรษะก็จะช่วยให้เขาสบายตัว มีความสุขกับทรงผมใหม่ได้ตลอดทั้งวันเลยค่ะ
อาหารบำรุงผม: ควรให้ลูกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและบำรุงสุขภาพผมในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ เพื่อช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงจากภายใน
ไม่ว่าจะเลือกทรงไหนให้เจ้าตัวน้อย สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกทรงที่เหมาะกับลักษณะนิสัย ไลฟ์สไตล์ กิจกรรมที่ลูกชื่นชอบ ดูแลรักษาง่าย และช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกน้อย อย่าลืมดูแลสุขภาพหนังศีรษะของเขาด้วยเคล็ดลับดี ๆ จากแคร์กันนะคะ รับรองว่าลูกชายของคุณแม่จะมีทั้งทรงผมสุดเท่และสุขภาพผมที่ดีไปพร้อม ๆ กัน