อาการร้องไห้ขณะนอนหลับ เพราะฝันร้ายหรือผิวเด็กระคายเคืองกันแน่?

อาการร้องไห้ขณะนอนหลับ เพราะฝันร้ายหรือผิวเด็กระคายเคืองกันแน่?

คุณแม่เคยสงสัยไหมว่า? ทำไมลูกน้อยของเราจึงร้องไห้ในขณะที่กำลังหลับอยู่ บางครั้งร้องไห้เสียงดัง ประกอบกับออกท่าทาง ชูแขนขา ปัดหน้าปัดตา จนคนเป็นแม่อย่างเราตกใจ กลัวว่าผิวเด็กจะเกิดบาดแผลโดยไม่คาดคิด หรือโดนแมลงกัดต่อยจนทำให้เกิดอาการคันผิวในระหว่างที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วย หรือเกิดจากสาเหตุใดกันแน่นะ วันนี้เราจะพาคุณแม่ไปไขความลับกับอาการนี้ของลูกกัน 

“พฤติกรรมการนอนหลับของทารก” แม่รู้ไว้ เข้าใจลูกมากขึ้น
คุณแม่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การนอนหลับของทารกกับผู้ใหญ่แตกต่างกันมาก โดยพฤติกรรมแล้วทารกจะผล็อยหลับได้อย่างรวดเร็วกว่าผู้ใหญ่อย่างเราๆ แต่จะยังไม่สามารถหลับลึกในทันที ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า ภาวะหลับแต่ยังไม่สนิท หรือ Rapid Eyes Movement (REM) ดังนั้นถึงแม้จะหลับได้รวดเร็วแต่เพราะยังไม่ได้หลับลึก จึงทำให้ทารกสะดุ้งตื่นง่ายกว่าผู้ใหญ่ เมื่อมีเสียงหรือปัจจัยต่างๆ ไปกระตุ้น โดยอาการร้องไห้ขณะหลับนี้ถือเป็นเรื่องปกติของทารกแรกเกิดไปจนถึง 1 ปี และเมื่อลูกโตขึ้น อาการเช่นนี้ก็จะเริ่มมีให้เห็นน้อยลง และค่อยๆ หายไปเอง คราวนี้คุณแม่ก็เข้าใจถึงพฤติกรรมการนอนของทารกแล้ว นอกจากจะช่วยให้คุณแม่คลายความกังวลลง คุณแม่ยังสามารถรับมือกับอาการนี้ได้อย่างตรงจุด ดังนั้นมาเช็กกันหน่อยดีกว่าว่า มีสาเหตุอะไรบ้างที่กระตุ้นให้ลูกของเราร้องไห้ขณะหลับ ศึกษาพฤติกรรมการนอนของทารกไปจนถึงเด็กวัยเตาะแตะเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

สาเหตุที่ลูกร้องไห้ขณะนอนหลับมีอะไรบ้าง?

  • ฝันร้าย เกิดจากการเล่นมากไปในตอนกลางวัน ความตื่นเต้น ความสนุก และจินตนาการของลูกอาจทำให้เขาฝันร้าย ทำให้ร้องไห้ออกมากลางดึก หรือระหว่างนอนกลางวันก็เป็นได้

  • หิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทารกแรกเกิด พวกเขาจะหิวนมบ่อย เฉลี่ยแล้ว 2-3 ชั่วโมง ที่คุณแม่จะต้องอุ้มลูกเข้าเต้า 1 ครั้ง ดังนั้นเมื่อลูกน้อยยังพูดไม่ได้ วิธีเดียวที่จะสื่อสารว่าหิวและต้องการให้คุณแม่ป้อนนมได้ คือการร้องไห้ออกมานั่นเอง

  • ไม่สบายท้อง เพราะระบบย่อยอาหารของทารกยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ การกินนมแม่มากไป อาจทำให้ลูกท้องอืด หรือในทารกที่กินนมผง หรือนมสูตรพิเศษ หากลูกร้องไห้โยเย ให้คุณแม่ตั้งข้อสงสัยว่าลูกอาจแพ้นมดังกล่าว และแนะนำให้คุณแม่ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการเปลี่ยนนม

  • ผิวแพ้ง่ายของลูก กำลังเกิดการระคายเคือง เนื่องจากภูมิคุ้มกันผิวเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ผิวเด็ก มักมีอาการแพ้และระคายเคืองได้ง่าย หากถูกปัจจัยต่างๆ มากระตุ้น เช่น ความอับชื้น ฝุ่น สิ่งสกปรก แบคทีเรีย และแมลง เป็นต้น เมื่อผิวเด็กสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ อาจทำให้ผิวแพ้ง่ายมีอาการคัน เกิดเป็นผด ผื่นแดงตามมา ทำให้เขาไม่สบายผิว และส่งเสียงร้องออกมานั่นเอง

วิธีดูแลผิวแพ้ง่ายของลูก

3 วิธีแก้ปัญหาลูกร้องไห้ขณะนอนหลับ แม่ทำได้ ง่ายนิดเดียว

สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับคนเป็นแม่ คือเมื่อลูกร้องไห้แล้ว มักร้องไม่หยุด และหากปล่อยไว้นานเกินไปก็จะพาลทำให้ลูกตื่นกลางดึก คราวนี้แหละ การกล่อมให้นอนอีกครั้งไม่ง่ายแล้ว มาเรียนรู้ 3 วิธีแก้ปัญหาลูกร้องไห้ขณะนอนหลับแบบฉบับคุณแม่มือโปรกันเถอะ ทำตามนี้เลย

  1. ลูบเบาๆ ไม่ร้องนะคนเก่ง
    การที่ลูกร้องไห้ขณะหลับ ไม่แนะนำให้คุณแม่อุ้มลูกขึ้นมาจากเตียง เพราะอาจจะทำให้เขาตื่นได้ ทางที่ดีคุณแม่ควรใช้วิธี“ลูบเบาๆ” ลูบบริเวณท้องของลูกอย่างแผ่วเบา เพราะบางทีเขาอาจกำลังไม่สบายท้อง ลูบลำตัวโดยเฉพาะบริเวณแขนและขา เพราะบริเวณนั้นอาจมีแมลงก่อกวนผิวแพ้ง่ายของลูกอยู่ เขาจึงไม่สบายผิว หรือกำลังคันผิว แต่หากทำแล้วลูกไม่หยุดร้องแนะนำให้เปิดดูผ้าอ้อม อาจจะมีการปัสสาวะ อุจจาระจนเต็ม หรืออับชื้น จนเกิดเป็นผด ผื่นแดง ผื่นผ้าอ้อมส่งผลให้ผิวเด็กระคายเคืองและร้องไห้ออกมานั่นเอง คุณแม่สามารถอ่าน “เคล็ดลับ ลูกรักหลับง่ายด้วยมือแม่” เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

  2. ใช้ผ้าพันหรือห่มผ้าหนาๆ ให้ลูกอุ่นขึ้น
    ทารกแรกเกิดยังไม่คุ้นชินกับอากาศภายนอกครรภ์ของคุณแม่ ดังนั้นการที่ทารกร้องไห้อาจเป็นเพราะได้รับความอบอุ่นไม่เพียงพอ คุณแม่ควรหาผ้ามาพันรอบๆ ตัวลูกน้อย เพื่อเพิ่มความอบอุ่น แต่อย่าพันแน่น หรือใช้ผ้าที่มีน้ำหนักเยอะ เพราะจะทำให้ลูกอึกอัดและหายใจไม่ออก และแนะนำให้คุณแม่ตรวจเช็กอุณหภูมิในห้องนอนไม่ให้ร้อนเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกเหงื่อออก ผิวอับชื้น ซึ่งอาจเกิดผด ผื่นแดง ผื่นผ้าอ้อมได้ และหากนอนในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่ควรให้อากาศเย็นเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแพ้ง่ายอย่างผิวเด็ก เกิดอาการแห้ง เป็นขุย ส่งผลให้ เขาไม่สบายตัว คันผิวจนร้องไห้ออกมา

  3. เลือกตัวช่วยสำหรับผิวลูก เจ้าตัวเล็กหลับสบายตลอดคืน
    การดูแลผิวเด็กให้สะอาดและสุขภาพดีอยู่เสมอ คืออีกวิธีที่จะช่วยให้ลูกหลับสบายและหลับสนิทตลอดคืน แต่ผิวเด็กทั้งบอบบาง และเป็นสภาพผิวแพ้ง่าย คุณแม่จึงต้องมองหาผลิตภัณฑ์ที่คิดมาเพื่อผิวแพ้ง่ายของลูกโดยเฉพาะ ต้องไม่มีสารเคมี เน้นทำความสะอาดและบำรุงผิวด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก
    • อาบน้ำ สระผม ให้สะอาดและหอมฟุ้ง ด้วย แคร์ เฮด ทู โท นิวทริ-โอ๊ต แอนด์ คาโมมายล์ สบู่เหลวและแชมพูเด็กในขวดเดียว ผสานสารสกัดจากคาโมมายล์ ช่วยเติมและกักเก็บความชุ่มชื้น พร้อมปลอบประโลมผิวจากอาการคันผิว ทำความสะอาดผิวและเส้นผมอย่างอ่อนโยน สูตรไฮโป-อัลเลอร์เจนิก ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่า ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวลูก เพราะไม่มีสารเคมี ไม่มีพาราเบน ซิลิโคน สีสังเคราะห์ และแอลกอฮอล์ มีค่า pH Balance เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายของทารก ผสานกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและหลับได้สนิทยิ่งขึ้น
    • เพิ่มความสบายตัวให้เจ้าตัวเล็ก ด้วย แป้งเด็กแคร์ คลาสสิค แป้งเด็กสูตรไฮโป-อัลเลอร์เจนิก ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ผิวหนังประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วว่าเป็นสูตรที่อ่อนโยน ช่วยลดความอับชื้นให้ผิวแพ้ง่ายของลูก ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 98% ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิว ลูกสบายผิว ไม่มีอาการคัน ไร้ผด ผื่นแดง ผื่นผ้าอ้อมกวนใจ ทำให้เขาหลับสบายและสนิทตลอดคืน

คราวนี้ลูกร้องไห้ในขณะหลับเมื่อไหร่ คุณแม่ก็สามารถจัดการได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคุณแม่มือโปรอย่างเรา นอกจากรู้วิธีรับมือแล้ว ยังต้องมีตัวช่วยเพิ่มความสบายผิวให้ลูกอย่าง สบู่เหลว แชมพูเด็ก และแป้งเด็ก ของแคร์ สูตรอ่อนโยนที่เราแนะนำกันไป เมื่อลูกผิวสะอาด สุขภาพผิวนุ่มชุ่มชื้นแล้ว เขาก็จะนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เขาเป็นเด็กร่าเริง อารมณ์ดี พร้อมเล่น และเรียนรู้มากขึ้นอีกด้วยนะคะ 

 

บทความที่น่าสนใจ เพื่อการดูแลผิวลูกน้อย