4 วิธีทำให้ลูกหลับง่าย นอนยาวตลอดคืน

“การนอน” ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับเด็กเล็ก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเจริญเติบโตทางร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน ส่งผลต่อการสร้างโกรว์ทฮอร์โมน (Growth hormone) ให้ลูกจะเติบโตสูงสมวัย มีภูมิคุ้มกันไม่เจ็บป่วยง่าย ช่วยเรื่องความจำและการเรียนรู้ของสมอง คุณแม่ลองสังเกตได้หากเด็กคนไหนได้นอนอย่างเต็มที่อย่างมีคุณภาพ จะตื่นขึ้นมาอย่างแจ่มใส ร่าเริง พร้อมที่จะเรียนรู้หรือทำกิจกรรมต่างๆ

รู้แบบนี้แล้วมาดูวิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด อารมณ์ดี ด้วย

4 วิธีทำให้ลูกหลับง่าย หลับสนิทตลอดคืน

1. จัดรูปแบบกิจวัตร สร้างกิจวัตรในระหว่างวันให้มีตารางเวลาสม่ำเสมอ โดยฝึกให้ลูกเข้านอนและตื่นนอนตรงเวลา จะช่วยให้ลูกเริ่มเข้าใจความมืดความสว่าง แยกแยะเวลากลางวันกับกลางคืน ลูกจะค่อยๆ ซึมซับพร้อมเข้าใจลำดับการใช้ชีวิตประจำวัน ได้ เช่น หลังจากป้อนอาหารมื้อเย็นเรียบร้อยแล้วก็พาลูกไปอาบน้ำ แล้วให้ลูกดื่มนมแล้วแปรงฟันให้เรียบร้อย จากนั้นก็พาเข้านอน โดยอาจจะกล่อมหรือเล่านิทานฝึกลูกอารมณ์ดีได้ โดยต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ 

2. ไม่นอนกลางวันมากไป เพราะลูกจะไม่รู้สึกง่วงในตอนกลางคืนนอกจากนี้ ลูกอาจยังอยากเล่นซนหรืออยากเล่นของเล่นเด็กเมื่อถึงเวลาเข้านอน การกำหนดจำนวนชั่วโมงนอนกลางวันให้ลูกเป็นอีกหนึ่งวิธีทำให้ลูกหลับง่ายขึ้นในช่วงกลางคืนค่ะ รวมไปถึงเด็กแต่ละช่วงวัยจะมีพฤติกรรมการนอนและลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน แต่คุณแม่หลายๆ คน อาจไม่แน่ใจว่าควรให้ลูกนอนหลับยาวแค่ไหนถึงจะพอดี? เราจึงมีเกณฑ์เฉลี่ยชั่วโมงการนอนของเด็กมาฝากกัน

   ช่วงอายุ	พฤติกรรมการนอน	จำนวนชั่วโมงการนอน/วัน
   แรกเกิด – 2 เดือน	ยังไม่มีเวลานอนหลับที่แน่นอน มักหลับๆ ตื่นๆ บ่อย ลูกอาจนอนกลางวัน ประมาณได้ 2 - 4 ครั้งต่อวัน	16 ชั่วโมง ± 4 ชั่วโมง	ช่วงเวลานอนกลางวัน พอๆ กับกลางคืน
   3 เดือน – 5 เดือน	เริ่มนอนเป็นเวลามากขึ้น เป็นช่วงที่คุณแม่เริ่มฝึกให้ลูกหลับเวลาเดิมได้ทุกวัน ซึ่งจะเป็นพื้นนิสัยของเจ้าตัวน้อย	13 ชั่วโมง ± 3 – 4 ชั่วโมง	กลางคืน 8 ชั่วโมง กลางวัน 4 ชั่วโมง
   6 เดือน – 11 เดือน	จำนวนการนอนกลางวัน ประมาณ 2 - 3 ครั้งต่อวัน	12 ชั่วโมง ± 3 ชั่วโมง	กลางคืน 9 ชั่วโมง กลางวัน 3 ชั่วโมง
   1 – 2 ปี	ลูกจะเริ่มเลิกนอนตอนเช้าหรือสายแล้ว เน้นนอนช่วงบ่ายแทน โดยจำนวนการนอนกลางวันจะลดลงเหลือ 2 ครั้งต่อวัน	11 ชั่วโมง ± 2 ชั่วโมง	กลางคืน 9 ชั่วโมง กลางวัน 2 ชั่วโมง
   3 – 4 ปี	เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงก่อนวัยเรียน การนอนลดลงเหลือประมาณ 12 ชั่วโมง อาจนอนกลางวัน 1 ครั้งต่อวัน และลูกสามารถตื่นและเข้านอนตรงเวลาเป็นกิจวัตรได้เอง

3. การเตรียมตัวก่อนนอน การสร้างบรรยากาศในห้องนอนลูกก็เป็นวิธีทำให้ลูกหลับง่ายขึ้นโดยในห้องนอนควรหลีกเลี่ยงการวางทีวีและโทรศัพท์ ที่จะเป็นการรบกวนสมาธิลูกตอนนอน ควรปิดหรือหรี่ไฟให้พอดีเพื่อไม่ให้รบกวนสายตาลูก เลี่ยงการเอาของเล่นเด็ก วางบนเตียงเมื่อถึงเวลานอน ปรับอุณภูมิห้องให้พอดีเย็นสบายและต้องไม่มีเสียงดังรบกวน เช่น เสียงพัดลม เสียงโทรศัพท์ เสียงพูดคุย เป็นต้น
   สำหรับท่านอนเด็ก ช่วงวัยแรกเกิดถึง 4 เดือน ควรเป็นท่านอนหงายหรือนอนตะแคง เพื่อป้องกันการกดทับจนหายใจไม่ออก เมื่อลูกเข้าสู่วัย 5 – 6 เดือน เด็กจะเริ่มนอนคว่ำและยกคอขึ้นได้ เพราะกระดูกคอและกล้ามเนื้อคอเริ่มแข็งแรง คุณแม่อาจให้ลูกนอนท่านี้ได้โดยต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด พร้อมใช้หมอนหนุนที่ไม่นุ่มยวบจนเกินไป เพราะศีรษะเด็กอาจจมไปกับหมอนจนปิดกั้นการหายใจได้ เมื่อเข้าสู่วัย 7 – 12 เดือน ลูกน้อยสามารถนอนได้ทุกท่าและสามารถพลิกตัวได้เองแล้ว

4. ดูแลลูกให้สบายตัว คุณแม่ควรเลือกเสื้อผ้าเด็กชุดนอนที่ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี และก่อนนอนสามารถสัมผัสกล่อมลูกเบาๆ ได้ รวมถึงอีกหนึ่งวิธีทำให้ลูกหลับง่าย หลับสบายตลอดคืน คือ ใช้แป้งเด็กทาผิวลูกบางๆ ทั่วตัว ซึ่งช่วยปลอบประโลมผิวอันบอบบางของลูกน้อยหลังการอาบน้ำ ป้องกันความอับชื้น ปกป้องความเปียกชื้น ลดการเกิดผื่นแพ้ ผดผื่นเด็ก หรืออาการแพ้ผ้าอ้อม ที่อาจะทำให้ลูกไม่สบายตัว

ไอเท็มแนะนำ

ใหม่! แป้งเด็กแคร์ ลาเวนเดอร์ แอนด์ โอ๊ตมิลค์

• มีกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และเป็นกลิ่นดอกไม้ที่นิยมนำมาบำบัดการนอนหลับ1
• พร้อมสารสกัดจากน้ำนมข้าวโอ๊ต ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิว ให้ลูกน้อยของคุณรู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว และช่วยปลอบประโลมผิวอันบอบบาง
• สูตรไฮโปอัลเลอร์เจนิก คุณแม่สามารถมั่นใจว่าจะปลอดภัยกับผิวแพ้ง่ายของลูกน้อย เพราะผ่านการทดสอบทางการแพทย์ว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ไม่ระคายเคืองผิว ปราศจากพาราเบน ซิลิโคน หรือสีสังเคราะห์ สามารถใช้ได้สม่ำเสมอทุกวันค่ะ

คุณแม่ลองนำวิธีทำให้ลูกหลับง่ายเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะคะ เพราะการสร้างกิจวัตรการนอนที่สม่ำเสมอ หมั่นสังเกตพฤติกรรมการนอนของลูก รวมถึงการเตรียมตัวลูกก่อนเข้านอน จะช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับสนิทได้ยาวนานขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมตัวช่วยพิเศษ แป้งเด็กแคร์ ลาเวนเดอร์ แอนด์ โอ๊ตมิลค์ ที่จะช่วยปลอบประโลมผิวลูกน้อยให้รู้สึกสบายตัว พร้อมกลิ่นหอมผ่อนคลายตลอดคืนค่ะ

ข้อมูลอ้างอิง

1. The Science of Essential OilsA
2. systematic review of the effect of inhaled essential oils on sleep