อาการเตือนก่อนคลอด แม่ท้องต้องรู้
โดยปกติแล้วการตั้งครรภ์จะใช้เวลาตั้งแต่เกิดขึ้นจนถึงคลอดใช้เวลาประมาณ 40 สัปดาห์ แต่ก็ใช่ว่า คุณแม่ตั้งครรภ์จะคลอดที่ 40 สัปดาห์เสมอไป สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในระยะท้ายๆก่อนคลอด เช่น เมื่ออายุครรภ์ครบ 36 สัปดาห์ขึ้นไป
ควรสังเกตตัวเองให้ดีเพราะ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 36 เป็นต้นไป คุณแม่ตั้งครรภ์ก็อาจมีภาวะเสี่ยงคลอดได้ แต่ไม่ได้ถือว่าเป็นการคลอดก่อนกำหนดหากอายุครรภ์ได้ 38 สัปดาห์แล้ว
หากมีภาวะคลอดเกิดขึ้น จะมีอาการเตือนเกิดขึ้นก่อนเสมอ และทำให้คุณแม่ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้แน่นอน เพราะจะเกิดความเจ็บปวดและผิดปกติ ซึ่งทำให้คุณแม่ต้องรีบเตรียมการคลอดที่จะมีขึ้นในเร็ววันข้างหน้าไว้ก่อน อาการเจ็บครรภ์มีอะไรบ้าง ให้คุณแม่สังเกตได้ดังนี้
คุณแม่ควรจะสามารถแยกแยะอาการเจ็บครรภ์ 2 ประเภท
เจ็บครรภ์เตือน
เป็นอาการเจ็บครรภ์ที่เกิดขึ้นก่อนคลอดพบได้ในไตรมาสสุดทายของการตั้งครรภ์ ให้คุณแม่สังเกตอาการต่อไปนี้
ปวดถ่วงบริเวณท้องน้อยและทวารหนัก คล้ายปวดประจำเดือน
มดลูกหดตัวแรงบ้าง เบาบ้างไม่แน่นอน มดลูกแข็งตัวห่างกันนาน 10 นาที หรือ 15 นาทีต่อครั้ง
สังเกตว่าท้องเริ่มลดต่ำลง ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น
ปวดหลังและรู้สึกท้องแข็ง เพราะมดลูกแข็งตัวเป็นก้อนที่บริเวณหน้าท้อง
รู้สึกลูกดิ้นแรงขึ้น ในช่วงที่อาการท้องแข็งคลายตัวลงใหม่ๆ
รู้สึกมีตกขาวออกมามากขึ้น ลักษณะเหนียวข้นและเป็นสีขาว
หากมีอาการตามที่กล่าวมา ข้างต้น คุณแม่ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด อาการเจ็บครรภ์เตือนดังกล่าว สามารถเกิดขึ้นตั้งแต่เข้าสู่ไตรมาสที่3 ของการตั้งครรภ์ และเมื่อเริ่มมีอาการเจ็บเตือนแล้วคุณแม่ก็ควรเริ่มจัดเตรียมสิ่งของเพื่อไปคลอด โดยหากเกิดการเจ็บครรภ์จริงขึ้นมา คุณแม่ก็พร้อมเสมอที่จะไปพบแพทย์ได้ทันที
อาการเจ็บครรภ์จริง
เป็นอาการที่คุณแม่ต้องรีบไปโรงพยาบาล เพื่อประเมินการคลอด
อาการเจ็บเริ่มที่หลังแล้วปวดร้าวมาที่ด้านหน้าบริเวณหัวหน่าวและท้องน้อย
มดลูกหดรัดตัวแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และระยะเจ็บนานขึ้น
มีมูกปนเลือดออกทางช่องคลอด มีลักษณะเป็นมูกปนเลือดสดหรือมีน้ำเดิน (ใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น )
หากคุณแม่เริ่มมีอาการใดอาการหนึ่งของทั้งสามข้อด้านบน ขอให้คุณแม่อย่านิ่งนอนใจ และรีบไปพบสูตินารีแพทย์เป็นการด่วนค่ะ