ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหานี้ได้เนื่องจากคุกกี้ถูกปิดใช้งาน หากต้องการเข้าถึงเนื้อหานี้ จำเป็นต้องเปิดใช้งานคุกกี้ โปรดคลิกปุ่มด้านล่าง เปิดใช้งานคุกกี้ แล้วรีเฟรชหน้านี้ คุณสามารถจัดการการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยใช้เครื่องมือตั้งค่าคุกกี้
คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจจะกังวลใจเมื่อลูกร้องไห้ไม่หยุด ไม่ว่าจะปลอบโยนด้วยวิธีไหนก็ไม่ช่วยให้ลูกหยุดร้องไห้ได้เลย อาการเด็กร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุในช่วงเวลาเดิม ๆ นานติดต่อกันหลายสัปดาห์ที่เรียกว่า “ภาวะโคลิค” (Colic) เป็นหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยกับทารกแรกเกิด ซึ่งสร้างความกังวลใจให้คุณพ่อคุณแม่ไม่น้อย แคร์ มีคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงสาเหตุของการเกิดโคลิค อาการแบบไหนที่เรียกว่าโคลิค จนถึงวิธีแก้อาการโคลิคในทารกเมื่อเด็กร้องไห้ไม่หยุดมาฝากค่ะ
‘โคลิค’ หรือ ‘โคลิก’ เป็นภาวะที่ทารกแรกเกิดประมาณ 2-3 สัปดาห์จนถึง 3 เดือน โดยลูกน้อยของคุณแม่จะมีอาการร้องไห้ไม่หยุดโดยไม่มีสาเหตุ ภาวะนี้มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า “ปวดบิดในทารก” (Baby Colic) เป็นอาการที่พบได้กับทารกสุขภาพดีและกินนมได้ตามปกติ โดยเด็กมักจะร้องไห้อย่างหนักในช่วงเย็น ๆ หรือกลางคืนเป็นเวลานาน 3 ชั่วโมงต่อวัน ร้องไห้มากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ และเป็นติดต่อกันนานเกิน 3 สัปดาห์ การที่เด็กร้องไห้ไม่หยุดต่อเนื่องหลายชั่วโมง สร้างความเครียดและความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก เพราะทารกที่มีอาการโคลิคจะงอแงและนอนหลับไม่สนิท ซึ่งอาการโคลิคเป็นภาวะที่เกิดขึ้นชั่วคราวและสามารถหายเองได้เมื่อทารกโตขึ้น ทั้งยังไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อพัฒนาการของลูกน้อย
แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโคลิค แต่งานวิจัยหลายชิ้นระบุถึงสาเหตุของการเกิดโคลิคในทารก ไม่ว่าจะเป็น
ลูกน้อยที่แข็งแรงของคุณแม่อาจมีอาการโคลิคได้เช่นกันค่ะ อาการลูกร้องไห้ไม่หยุดหรือลูกน้อยงอแงเป็นเวลานานหลายชั่วโมงโดยไม่ทราบสาเหตุ เรามีวิธีง่าย ๆ ในการสังเกตภาวะโคลิคของลูกน้อย เพื่อให้คุณแม่ดูแลได้อย่างเหมาะสม เช่น
** ข้อควรระวัง: หากลูกน้อยของคุณแม่ร้องไห้เสียงดัง แหลม และดูเหมือนปวดท้องอย่างรุนแรง การปลอบโยนด้วยการอุ้ม ป้อนนม หรือเปลี่ยนผ้าอ้อมอาจไม่ได้ผล แนะนำให้ปรึกษากุมารแพทย์เพื่อเข้ารับคำแนะนำที่ถูกต้องจะดีที่สุด
มีเคล็ดลับมากมายในการช่วยปลอบประโลมและรับมือกับอาการลูกร้องไห้ไม่หยุดได้อย่างดี เรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณแม่ดูแลลูกน้องร้องไห้ไม่หยุดด้วยตัวเองมาฝากค่ะ
** ข้อควรรู้: การดูแลทารกที่มีภาวะโคลิคต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจเป็นอย่างสูง หัวใจสำคัญของการรับมือกับเด็กร้องไม่หยุด คือการช่วยให้ลูกรู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายให้มากที่สุดค่ะ
แม้ว่าโคลิคจะไม่ใช่ภาวะที่อันตราย แต่หากลูกน้อยมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง โดยสัญญาณเตือนที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตเมื่อลูกน้อยร้องไห้ไม่หยุด ได้แก่
การมีลูกมีอาการโคลิคหรือลูกร้องไห้ไม่หยุดติดต่อกันหลายวัน อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เครียดสะสม รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกผิด และถึงขั้นซึมเศร้าได้ หากเป็นไปได้ ควรให้คนอื่น ๆ ดูแลลูกน้อยเมื่อคุณรู้สึกเครียด หงุดหงิด วิตกกังวล นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร หรือมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum Depression หรือ PPD) เพื่อให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายสบายใจมากขึ้น หรืออาจให้ลูกน้อยอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญในบางครั้ง เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้หยุดพักและปรับสมดุลจิตใจให้ผ่อนคลายมากขึ้น
แม้ ‘โคลิค’ หรือเด็กร้องไห้ไม่หยุดจะเป็นภาวะที่ท้าทายสำหรับคุณพ่อคุณแม่ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจว่าภาวะนี้เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ และไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดในการเลี้ยงดูของคุณแต่อย่างใดค่ะ การมอบความรักและการปลอบโยนอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยความเข้าใจ แล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพของทั้งสองท่านด้วยนะคะ เพราะคุณพ่อคุณแม่ที่เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจจะช่วยให้ลูกเติบโตอย่างมีความมั่นคงทางอารมณ์นั่นเองค่ะ