เลือกโรงเรียนอนุบาลให้ลูก…
คำถามยอดฮิตของคุณแม่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยเตาะแตะเริ่มเข้าอนุบาล การเลือกโรงเรียนก็เป็นเรื่องที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลใจอย่างมากเพราะจะต้องปล่อยลูกรักตัวน้อยเข้าสู่โลกใบใหม่และทำความรู้จักกับสังคมใหม่ของเขา นอกจากนี้โรงเรียนอนุบาลก็เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของลูกรักและเป็นพื้นฐานการศึกษาที่จะมีผลต่ออนาคตวันข้างหน้าของลูก จึงไม่แปลกเลยที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องคิดหนัก
การเลือกโรงเรียนแห่งแรกของชีวิตลูก ต้องอยู่ที่ดุลพินิจของคนเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองในการตัดสินใจ ไม่ควรเลือกโรงเรียนที่ผู้อื่นมาบอกเล่าว่าดี แต่เลือกจากหลักการพื้นฐาน โครงสร้างการศึกษา สิ่งแวดล้อม อีกทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย สถานที่และหลายปัจจัยที่ต้องใช้ในการตัดสินใจ
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการศึกษาระดับปฐมวัยเป็นอย่างไร แนวทางการเรียนการสอนมีแบบไหนบ้าง และเราควรจะเลือกโรงเรียนแนวไหนให้เหมาะกับลูกของเรา
ปัจจุบันแบ่งแนวทางการเรียนการสอนแบบหลักๆได้ดังนี้…
แนวทางที่เน้นเร่งเรียนเขียนอ่าน
แนวทางการเรียนการสอนของโรงเรียนอนุบาลประเภทนี้จะเคร่งครัดเรื่องวิชาการ เรียกว่าจบระดับอนุบาลก็สามารถอ่านออกเขียนได้ และเน้นที่จะให้เด็กไปสอบเข้าโรงเรียนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ในโรงเรียนชื่อดังให้ได้ โรงเรียนประเภทนี้จะพบเห็นอยู่เป็นจำนวนมากแนวเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เด็ก
แนวทางนี้จะเน้นเรื่องความพร้อมของเด็กให้เหมาะสมตามวัย จะไม่เน้นเรื่องวิชาการ เมื่อจบชั้นปฐมวัยแล้วก็อาจยังไม่สามารถอ่านเขียนได้ แนวทางนี้เน้นเรื่องพัฒนาการรอบด้าน ฝึกทักษะต่างๆ ตามช่วงวัย เน้นการเรียนผ่านการเล่นแต่ก็ฉลาดได้เหมือนกัน
สำหรับแนวทางการเตรียมความพร้อมก็มีหลากหลายรูปแบบเช่นกัน ตัวอย่างเช่น
Waldorf เน้นสอนให้เด็กเรียนรู้ผ่านการเล่น สอนกิจกรรมให้ฝึกทักษะการคิดจินตนาการ ทั้งศิลปะ ดนตรี โดยให้เด็กได้ปฏิบัติจริง
Montessori แนวทางนี้จะเน้นสอนตามพัฒนาการและความต้องการของเด็ก เพื่อให้เด็กพึ่งพาตนเองได้ เรียนรู้เป็นรายบุคคล เน้นการเตรียมการสอนของครูตามขั้นตอน โดยใช้อุปกรณ์ในการฝึกประสาทสัมผัสเด็ก
Project Approach เป็นการสอนด้วยวิธีสะสมแฟ้มผลงานเด็ก โดยสืบค้นหาข้อมูลตามเรื่องที่เด็กสนใจ ค้นหาคำตอบจากคำถามที่เกี่ยวกับหน่วยการเรียนรู้ คำถามนั้นจะมาจากเด็กกับครูร่วมกัน เพื่อให้เด็กรู้จักตัดสินใจ และพ่อแม่มีส่วนร่วม
Whole Language Approach เป็นการสอนภาษาแบบบูรณาการ ผ่านการฟัง พูด อ่าน เขียนพร้อมกัน ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง เตรียมความพร้อมทุกด้าน ให้เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาได้ง่ายและเร็วขึ้น
High/Scope เน้นการเรียนรู้แบบลงมือกระทำผ่านมุมเล่นหลากหลาย ด้วยสื่อและกิจกรรมที่เหมาะกับพัฒนาการ และการแก้ปัญหา แบ่งการสอนเป็นกลุ่มย่อยเพื่อกระตุ้นพัฒนาการ
นอกจากประเด็นด้านหลักสูตรแล้ว สิ่งที่พ่อแม่ต้องพิจารณาอย่างมากและสำคัญมากก่อนตัดสินใจ เช่น
เรื่องการเดินทาง ต้องยอมรับว่าเงื่อนไขเดินทางเป็นตัวแปรสำคัญในการ ตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้ลูกด้วย
สภาพแวดล้อมส่งเสริมการเรียนรู้ เหมาะสมต่อพัฒนาการเด็กหรือไม่ มีสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับช่วงวัย ทั้งหนังสือนิทาน อุปกรณ์การเรียนรู้ ฯลฯ รวมถึงสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนไม่ได้ดีแต่ตึกเพียงอย่างเดียว
มีกิจกรรมเสริมทักษะชีวิตให้กับเด็กๆ ด้วยหรือไม่ เช่น กีฬา กิจกรรมกลุ่ม หรือสนามเด็กเล่น ที่เด็กสามารถปีนป่ายเพื่อพัฒนาการทางด้านร่างกายด้วย
มาตรการความปลอดภัย เพราะเด็กเล็กจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นต้องให้ความสำคัญและสำรวจภายในโรงเรียนว่าเอาใจใส่ในเรื่องนี้แค่ไหน
หลักการพื้นฐานในการเลือกโรงเรียนให้กับลูกรักเป็นหลักการขั้นพื้นฐาน คุณแม่ต้องพิจารณาลึกลงไปในสิ่งที่เกี่ยวกับตัวลูกด้วย เช่นบุคลิกของลูกชอบหรือมีความถนัดในด้านใด หากยังไม่ทราบคุณแม่อาจลองสังเกตไปก่อน ไม่ควรเลือกเพราะผู้อื่นบอกว่าดี ควรเลือกโรงเรียนที่คุณพ่อคุณแม่พิจารณาแล้วว่าเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของครอบครัวด้วย
อ้างอิง www.moe.go.th