4 วิธี ช่วยให้ลูกสนุกกับ “งานบ้าน” เสริมพัฒนาการเด็กวัยอนุบาล

4 วิธี ช่วยให้ลูกสนุกกับ “งานบ้าน” เสริมพัฒนาการเด็กวัยอนุบาล

เมื่อลูกเข้าสู่วัยอนุบาล 3-6 ขวบ เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่จะเหนื่อยเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวัยกำลังซน เริ่มต่อต้าน เริ่มมีโลกส่วนตัวสูง ดังนั้นยามว่างเว้นจากการเรียน คุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกมีพฤติกรรมติดจอ ควรหากิจกรรมให้เขาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แคร์ขอแนะนำให้คุณแม่ชวนลูก “ทำงานบ้าน” นอกจากเป็นการฝึกวินัย ความรับผิดชอบ และฝึกให้เขารู้จักช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว การทำงานบ้านยังช่วยเสริมพัฒนาการเด็กได้รอบด้าน และเป็นทักษะที่จะติดตัวเขาไปยังอนาคตด้วย เรามี 4 เทคนิค ช่วยให้งานบ้านเป็นเรื่องสนุกสำหรับเด็ก ถ้าพร้อมแล้ว ชวนลูกทำงานบ้านด้วยกันเลย
เช็กก่อนชัวร์กว่า! บริเวณใดในบ้านที่เป็นอันตรายต่อผิวแพ้ง่ายของลูก คลิก

  1. เริ่มต้นจากงานบ้านง่ายๆ ได้กำลังใจไปต่อ
    ตามธรรมชาติของเด็กวัยนี้ เมื่อเห็นคุณแม่กำลังยุ่งกับอะไรสักอย่างก็มักจะถามเสมอว่า “คุณแม่ทำอะไร” ให้คุณแม่ถือโอกาสนี้สอนลูกทำงานบ้าน โดยเริ่มจากงานบ้านง่ายๆ เช่น เช็ดโต๊ะ จัดชั้นหนังสือ เก็บของเล่นเด็กใส่กล่อง หรือ รดน้ำต้นไม้ เป็นต้น และเมื่อลูกทำสำเร็จ อย่าลืมชมเชย เพื่อเป็นกำลังใจให้เขาอยากช่วยคุณแม่ทำงานบ้านอีก จากนั้นคุณแม่ค่อยๆ สอนงานบ้านที่ยากขึ้นให้เขา เช่น การล้างจาน ถูบ้าน ตากผ้า เป็นต้น นอกจากนี้คุณแม่ต้องคอยระวังไม่ให้ผิวแพ้ง่ายอย่างผิวเด็กสัมผัสกับน้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมี เพราะอาจระคายเคือง จนเกิดผด ผื่นคัน ผื่นแดงตามมาได้นั่นเอง 

  2. เปลี่ยนคำว่า ‘งานบ้าน’ เป็น ‘เกมสุดท้าทาย’
    ธรรมชาติของเด็กทุกคน ทุกอย่างจะดูสนุกไปเสียหมด เมื่ออยู่ในรูปแบบของเกม เหมือนกับคุณครูที่โรงเรียนชอบให้เขาเล่นกับเพื่อนๆ เพียงคุณแม่เปลี่ยนงานบ้านที่ลูกไม่อยากทำ เป็นเกม หรือภารกิจสนุกๆ ให้เขาอยากพิชิต เช่น เก็บของเล่นเด็กเรียงขึ้นชั้นภายใน 5 นาที กรอกน้ำให้เสร็จก่อนคุณพ่อจะกลับบ้าน เป็นต้น เมื่อเขาทำสำเร็จให้คุณแม่มอบของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ลูกภูมิใจในตัวเอง เช่น เงินหยอดกระปุกออมสิน ให้กินไอศกรีม หรือให้ดูการ์ตูน เป็นต้น

  3. อุปกรณ์ดึงดูดใจ เด็กอารมณ์ดีตลอดการทำงานบ้าน
    เพื่อให้เด็กอารมณ์ดีตลอดการช่วยคุณแม่ทำงานบ้าน คุณแม่ควรหาอุปกรณ์ที่มีขนาดเหมาะกับเด็กวัยอนุบาล เพื่อความถนัดและความปลอดภัย เลือกเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก แนะนำให้คุณแม่เพิ่มลูกเล่นให้อุปกรณ์ทำความสะอาดประจำตำแหน่งของลูก โดยเลือกสีสันสดใส มีตัวการ์ตูนที่ลูกชอบติดไว้กับตัวอุปกรณ์ เช่น ไม้กวาดที่มีตุ๊กตาลิงเกาะอยู่ ถุงมือล้างจานรูปแมว บัวรดน้ำคุณช้าง เป็นต้น

  4. เพลงโปรด เพิ่มความสนุกสนาน
    เปิดเพลงที่ลูกชอบร้อง ชอบเต้นคลอไปตลอดการทำงานบ้าน นอกจากเด็กอารมณ์ดี เพราะสนุกไปกับเพลงแล้ว เพลงจะช่วยให้ลูกมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำ เป็นการฝึกฝนสมาธิ ซึ่งส่งผลดีต่อการเรียนและการจดจำบทเรียนของลูกด้วย แนะนำเป็นเพลงภาษาต่างประเทศ อย่าง ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน จะช่วยฝึกพัฒนาการเด็กด้านการฟัง และจดจำภาษาที่สาม

หลังจากเจ้าตัวเล็กช่วยคุณแม่ทำงานบ้านเสร็จเรียบร้อย ผิวของลูกอาจเลอะเทอะไปด้วยเหงื่อ ฝุ่น สิ่งสกปรก และแบคทีเรีย คุณแม่ควรพาลูกอาบน้ำทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเด็กที่เป็นผิวแพ้ง่าย เกิดผด ผื่นคัน ผื่นแดง แนะนำ 2 ไอเท็มจากแคร์ ดังนี้ 

  • อาบ-สระสะอาด ให้ตัวหอมจนน่ากอด ใช้ แคร์คิดส์ เฮดทูโท กลิ่นเฟรนด์ลี่ เชอร์รี่ สะดวกต่อการใช้ด้วยสูตร Head to toe เป็นทั้งสบู่เด็กและยาสระผมเด็ก ครบ จบในขวดเดียว อาบสระสะอาดหมดจด ผิวเด็กนุ่ม ชุ่มชื้นไม่แห้งตึง ขจัดกลิ่นเหงื่อได้ดี เพราะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของผลไม้ ช่วยให้เด็กอารมณ์ดี เพราะรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป

  • ปะแป้งเด็กให้สบายตัว ผิวเนียนนุ่มจนน่าฟัด ใช้ แป้งเด็กแคร์คลาสสิค เป็นแป้งสำหรับผิวแพ้ง่ายอย่างผิวเด็กโดยเฉพาะ เป็นแป้งทาตัวเด็กที่อ่อนโยนด้วยสูตรไฮโป-อัลเลอร์เจนิก ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่า ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวเด็ก อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติถึง 98% ปราศจากพาราเบน สีสังเคราะห์ ซิลิโคน มาพร้อมสารสกัดจากขมิ้นช่วยลดผด ผื่นแดง ผื่นคันที่กวนใจลูก 

การให้เขาได้ช่วยทำงานบ้าน นอกจากเป็นสอนให้เขาช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่แล้ว กิจกรรมนี้ยังช่วยฝึกฝนความอดทน ฝึกให้ลูกมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำ และเพื่อให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี พร้อมสนุกไปกับทุกกิจกรรม คุณแม่อย่าลืมหาตัวช่วยมาดูแลผิวเด็ก ไม่ว่าจะเป็นสบู่เด็ก ยาสระผมเด็ก และแป้งทาตัวเด็ก เพื่อปกป้องผิวแพ้ง่ายจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และบำรุงผิวบอบบางให้สุขภาพดีอยู่เสมอ

 

บทความที่น่าสนใจ เพื่อการดูแลผิวลูกน้อย