ลูกรับรู้กลิ่นได้.. ความจริงที่คุณแม่อาจไม่รู้

แม่ๆเคยสังเกตหรือไม่ว่า ลูกน้อยของเราก็สามารถรับรู้และเข้าถึงกลิ่นต่างๆได้หลากหลายมากมายทีเดียว หลายๆครั้งที่เรานำกลิ่นหอมละมุนหรือกลิ่นที่ลูกชอบเข้าไปใกล้ ลูกก็จะยิ้มและตอบสนองในทางที่ดี แต่หากคุณแม่นำกลิ่นที่ทารกไม่คุ้นเคย หรือไม่ชอบ สังเกตได้เลยว่าลูกน้อยของคุณจะตอบสนองต่อกลิ่นนั้นด้วยการ ร้องไห้โยเย โดยคุณแม่สามารถเรียนรู้เรื่องประสาทสัมผัสในการได้ รับกลิ่นของลูก เพื่อช่วยให้เขาพัฒนาประสาทสัมผัสให้ดีขึ้น

ความจริง 3 ประการ ว่าด้วยเรื่องการรับรู้กลิ่นของลูก

1. ประสาทสัมผัสการรับกลิ่นของเด็กทารก มีประสิทธิภาพดีกว่าผู้ใหญ่เสียอีก เพราะว่าประสาทสัมผัสในการรับกลิ่น จะเริ่มต้นการพัฒนาขึ้นมาก่อนการพัฒนาด้านการมองเห็น แต่ระหว่างที่โตเป็นผู้ใหญ่ทำให้ประสาทสัมผัสเรื่องกลิ่นกลับลดประสิทธิภาพลง ซึ่งคงเกิดจากการที่ประสาทสัมผัสด้านอื่น ๆ มีการพัฒนาขึ้นมาแทนความจำเป็นในการเข้าใจสิ่งต่างๆผ่านกลิ่น เช่น การมองเห็นและได้ยิน หรือกล่าวได้ว่า ทารกเรียนรู้โลกใบใหม่ของพวกเขาผ่านการได้กลิ่นต่างๆ นั่นเอง คุณแม่สามารถพัฒนาประสาทสัมผัสด้านการดมกลิ่นของลูกรักได้ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เพื่อช่วยให้ลูกรักได้สัมผัสกลิ่นใหม่ผ่านการอาบน้ำ
   
   ไอเท็มแนะนำ
   เเคร์ เฮดทูโท นิวทริ-โอ๊ต เเอนด์ เชอร์รี่บลอสซัม สบู่เหลวที่ผ่านการทดสอบไฮโป-อัลเลอร์เจนิก ทางการแพทย์สหรัฐแล้วว่าอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองตาและผิวของลูกน้อยพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆตามส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ
   
   

2. เชื่อหรือไม่ว่า ทารกสัมผัสกลิ่นได้ตั้งแต่ในครรภ์คุณแม่แล้ว ทารกในครรภ์สามารถรับรู้กลิ่นได้ตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 6 เดือนแล้ว ทารกสามารถรับรู้กลิ่นครีมอาบน้ำที่หอมละมุนที่คุณแม่อาบน้ำในแต่ละเช้าได้ กลิ่นอาหารหอมที่เตรียมไว้บนโต๊ะอาหาร และรับรู้ถึงความสุขเวลาคุณแม่รับประทานอาหารหอมๆนั้น การดมกลิ่นได้พัฒนาขึ้นและสมองส่วนที่รับสัมผัสเรื่องการดมกลิ่น ก็มีความอ่อนไหวมากกับการรับรู้ ทำให้กลิ่นที่ลูกในท้องได้สัมผัสจึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประสาท การแยกแยะเรื่องกลิ่นเมื่อเจ้าตัวเล็กคลอดออกมาลืมตาดูโลก

3. เจ้าจมูกน้อยแสนขยัน ประสาทสัมผัสการดมกลิ่นของลูกรักช่างมีประสิทธิภาพเหลือเกิน โดยเฉพาะกับกลิ่นเต้านมของคุณแม่ บางครั้งคุณแม่เพียงเข้ามาใกล้ๆแบบเงียบๆ ทารกน้อยก็สามารถรับรู้ได้ว่าคุณแม่อยู่ใกล้เข้า นั่นก็เพราะเจ้าจมูกน้อยๆแสนขยันนี้กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเรียนรู้โลกกว้างใบนี้ จมูกน้อยนี้จะทำงานหนักไปก่อนจนกว่าประสาทสัมผัสอื่นๆ จะพัฒนาขึ้นมาทำงานร่วมกันกับประสาทการดมกลิ่นนี้ หากคุณแม่อยากกระตุ้นพัฒนาการด้านอารมณ์ที่ดีของลูกรัก คุณแม่อาจนำกลิ่นหอมละมุน เช่นครีมอาบน้ำกลิ่นต่างๆ หรือ กลิ่นหอมตามธรรมชาติ กลิ่นผลไม้ กลิ่นดอกไม้ มาอาบน้ำให้ลูก เท่านี้ก็เป็นการกระตุ้นพัฒนาการด้านอารมณ์ให้ลูกได้แล้วค่ะ

การเรียนรู้ของทารกเกิดจากการแยกแยะความแตกต่างของกลิ่นที่รับรู้ได้ถูกต้อง ทำให้เห็นว่าทารกแรกเกิดสามารถจดจำกลิ่นของตัวเองได้ สามารถจำกลิ่นเต้านมของคุณแม่ได้ แม้กระทั่งกลิ่นคุณพ่อลูกก็อาจจะจำได้เหมือนกัน หากคุณพ่อมีความใกล้ชิดกับลูกเพียงพอ เพราะประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นของลูกน้อย จะช่วยให้ลูกปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมหลังจากที่เกิดมาลืมตาดูโลก เด็กน้อยจะค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับกลิ่นที่ได้สัมผัสบ่อย ๆ จนจดจำกลิ่นรอบตัวได้และพัฒนาขึ้นจนสามารถทำงานร่วมกับประสาทสัมผัสอื่นๆได้เมื่อเติบโตขึ้นนั่นเอง