‘อาการคัน’ เรื่องเล็กๆ ที่อาจขัดพัฒนาการลูก

อาการคันผิวของลูกน้อยเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความอับชื้นของเสื้อผ้า ฝุ่น สิ่งสกปรก แบคทีเรีย สภาพอากาศ ผิวที่แห้ง แตก ลอกเป็นขุย จนทำให้ผิวบอบบางของลูก เกิดการระคายเคือง และอีกสาเหตุสำคัญที่แม่อาจยังไม่รู้คือ สารอันตรายที่เป็นส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ลูกใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ครีมอาบน้ำเด็ก แชมพูสำหรับเด็ก และแป้งเด็ก เป็นต้น มักมีส่วนผสมของ 4 สารอันตรายทำร้ายผิวลูก ได้แก่

• พาราเบน (Paraben) สารกันเสียชนิดหนึ่ง ทำลายสมดุลผิวของลูก ทำให้ระคายเคืองผิว

• ซิลิโคน (Silicone) สารตกค้าง ที่ทำให้ผิวของลูกอุดตัน ไม่เรียบเนียน 

• สีสังเคราะห์ (Artificial Color) สีสันจากสารเคมีที่ทำให้ผลิตภัณฑ์น่าใช้ ตัวการกระตุ้นการระคายเคืองผิวของลูก

• แอลกอฮอล์ (Alcohol) สารที่ทำให้ผิวลูกสูญเสียความชุ่มชื้น เสียสมดุลผิว จนผิวแห้ง แตก ลอก

เมื่อผิวบอบบางของลูกเกิดการระคายเคือง เกิดอาการคัน ตามมาด้วยผดผื่นคันกวนใจ ทำให้ลูกไม่สบายตัว อารมณ์ไม่ดี ส่งผลให้เขาไม่อยากเล่น ไม่อยากเรียนรู้ อาจเป็นสาเหตุทำให้พัฒนาการในด้านต่างๆ สะดุดได้นั่นเอง 

'อาการคัน' ฉุดพัฒนาการลูกอย่างไร?

1. ขาดสมาธิ เมื่อลูกไม่สบายตัว เกิดอาการคัน และเกาตลอดเวลา ทำให้เขาไม่มีสมาธิที่จะเล่น เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือทำกิจกรรมต่างๆ ส่งผลให้พัฒนาการด้านสติปัญญาอาจพัฒนาช้ากว่าเพื่อนวัยเดียวกัน หรือเรียนไม่ทันเพื่อน

2. นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ หากลูกมีอาการคันผิวมากๆ อาจทำให้เขาไม่สบายตัวจนต้องตื่นมาเกากลางดึก ส่งผลให้เขานอนหลับไม่เพียงพอ เมื่อถึงเวลาเรียนหรือเล่น ร่างกายก็จะไม่แอคทีฟเต็มที่ 

3. หมดสนุกในการเล่น ลูกซึมไม่ร่าเริง อาจเพราะลูกไม่สบายตัว มีอาการคันผิว หมดสนุกในการเล่น ถึงแม้จะเป็นกิจกรรมที่เขาชอบทำก็ตาม 

4. เป็นเด็กขี้หงุดหงิด สาเหตุอาจมาจากการระคายเคืองผิว เกิดอาการคัน ทำให้ลูกงอแงบ่อยๆ ขี้โมโห อารมณ์ไม่ดี และไม่สดใสร่าเริง

5. เสี่ยงเป็นโรคผิวหนังในเด็ก หากคุณแม่ปล่อยไว้ ไม่รีบแก้ปัญหาอาการคันในเด็ก ปล่อยให้เขาเกานานๆ ความสกปรกที่สะสมในเล็บ และผิวบริเวณที่ถูกทำร้าย จะกลายเป็นผดผื่นคัน ลุกลามเป็นโรคผิวหนังในเด็ก ที่รักษาแสนยาก ตามมาด้วยค่ารักษาที่แสนแพง