ยาเหล่านี้ แม่ท้องต้องอยู่ห่าง

ยาเหล่านี้ แม่ท้องต้องอยู่ห่าง

ช่วงเวลาที่ชีวิตน้อยๆเริ่มเติบโตขึ้นในครรภ์ของคุณแม่นั้น คุณแม่ตั้งครรภ์คงตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้ดูแลลูกรักในครรภ์เพื่อลูกรักจะได้ลืมตาดูโลกอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด และช่วงเวลานี้เองที่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเฝ้าระวังไม่ให้ สารพิษ สารเคมีใดๆเข้าไปทำร้ายลูกรักในครรภ์ของแม่อย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มียาและสารเคมีหลายชนิดทีเดียว ที่แม่ท้องห้ามใช้เด็ดขาดในช่วงตั้งครรภ์รวมไปถึงช่วงให้นมลูก เพราะยาทุกชนิดที่แม่ท้องใช้สามารถส่งต่อเข้าสู่รกผ่านกระแสเลือดของเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องได้ ดังนั้นยาที่คุณแม่จะใช้ในระหว่างการตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องแน่ใจก่อนว่าไม่เป็นอันตรายต่อลูกในท้อง มีอะไรบ้างมาดูกัน

  1. ยาแก้ปวดอักเสบ ลดไข้ ยาแก้ปวด
    ยาแอสไพริน (Aspirin) ที่กินกันเป็นประจำเมื่อมีอาการปวดอักเสบ หรือใช้ลดไข้ แต่สำหรับแม่ท้องนั้นเป็นยาที่ต้องห้าม ควรเปลี่ยนไปใช้ยาที่ปลอดภัยกับทารกแทนค่ะ เพราะยาอาจทำให้เสี่ยงกับการแท้ง เลือดออกขณะตั้งครรภ์ หรือคลอดก่อนกำหนดได้

  2. ยารักษาสิวกลุ่มกรดวิตามินเอ
    สำหรับคุณแม่ที่เคยใช้ ยารักษาสิวกลุ่มกรดวิตามินเอ Isotretinoin ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของกรดวิตามิน เอ ที่อยู่ในรูปแบบยากิน ตอนก่อนตั้งครรภ์ เมื่อตั้งครรภ์แล้วห้ามใช้ยานี้ เพราะมีผลกับลูกในท้องค่อนข้างรุนแรง ส่งผลให้ลูกในท้องอาจจะพิการแต่กำเนิดได้ ส่วนยาทายังอาจพอใช้ได้แต่ก็ควรปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ทุกครั้งค่ะ

  3. ยาปฏิชีวนะ
    ยาปฏิชีวนะหรือยาแก้อักเสบก็มีด้วยกันหลายกลุ่ม หลายชนิด โดยทั่วไปที่ใช้บ่อย ๆ คือ ยากลุ่มเพนิซิลิน (Penicillins) นั้น ค่อนข้างมีความปลอดภัยกับแม่ท้อง แต่ยาปฏิชีวนะที่ต้องระวังคือยาปฏิชีวนะกลุ่มเตตร้าซัยคลิน (Tetracycline) ซึ่งส่งผลต่อการสร้างกระดูกและฟันของลูก ทำให้ลูกมีฟันสีเหลืองหรือสีน้ำตาลได้ หรือทำให้กระดูกและสมองของลูกผิดปกติได้

แม่ตั้งท้องปวดศรีษะ
  1. ยารักษาเบาหวาน
    การรักษาเบาหวานด้วยยากินขณะตั้งท้องอาจปรับขนาดยาลำบาก ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia) และยังส่งผ่านรกได้ทำให้ทารกแรกคลอดเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำด้วย ถ้าเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์จึงนิยมใช้ยาฉีดอินซูลินซึ่งปลอดภัยกว่า

  2. ยาสเตอรอยด์
    ที่เป็นยากินหรือยาฉีดนั้น หากจำเป็นต้องใช้ขณะตั้งครรภ์ ควรต้องให้คุณหมอเป็นคนสั่ง เพราะจัดอยู่ในยาที่เป็นอันตรายอาจทำให้ทารกเกิดภาวะปากแหว่ง เพดานโหว่ได้ แต่สำหรับยาสเตอรอยด์แบบใช้ภายนอกสามารถใช้ได้หากใช้ในแบบอ่อนและใช้ในช่วงเวลาสั้น ๆ

  3. ยารักษาโรคความดันโลหิต
    ยารักษาความดันโลหิตบางชนิด เช่น รีเซอร์พีน (Reserpine) ส่งผลต่อทารกทำให้เกิดความผิดปกติได้ ดังนั้นหากคุณแม่ที่รักษาโรคความดันโลหิตอยู่ แล้ววางแผนตั้งท้องควรปรึกษา และแจ้งคุณหมอก่อน เพื่อปรับไปใช้ยาที่มีความปลอดภัย

  4. ยารักษามะเร็ง
    การรักษามะเร็งทำได้หลายวิธี แต่การใช้ยาเคมีบำบัดสำหรับแม่ท้องที่เป็นมะเร็งอาจส่งผลกระทบไปถึงลูกในครรภ์ได้ เพราะยาอาจจะไปหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์ได้ ดังนั้นคุณหมอจึงหลีกเลี่ยงการใช้ยาในช่วงตั้งครรภ์อ่อน ๆ แต่อาจจะรักษาด้วยวิธีอื่นแทน

  5. ยากันชัก
    สำหรับแม่ท้องที่รักษาอาการชักอยู่ การกินยากันชักจำเป็นต้องอยู่ในความควบคุมของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพราะยากันชักอาจส่งผลให้ทารกที่คลอดออกมาพิการแต่กำเนิดได้ แต่ก็ไม่ควรหยุดยา คุณหมอจึงมักให้ใช้ยากันชักขนาดต่ำที่สุดที่สามารถควบคุมอาการได้ และให้ยากันชักเพียงชนิดเดียวเท่านั้นในช่วงตั้งครรภ์

  6. ยาขับปัสสาวะ
    ยาขับปัสสาวะ หรือยาขับน้ำ ซึ่งช่วยในการขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายและยังช่วยลดระดับความดันโลหิต แต่ถือเป็นยาอันตราย ต้องห้ามหากกำลังตั้งท้อง

  7. ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
    ในช่วงตั้งท้องไตรมาสแรก คุณแม่ไม่ควรใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดบางชนิด เช่น เฟนินไดโอน (Phenindione), อินดานิดิโอน (Indanidione) และคูมาริน (Coumarin) เพราะอาจทำให้ลูกพิการ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เด็กในครรภ์หรือเด็กแรกคลอดมีเลือดออกในระหว่างการคลอดได้อีกด้วย

ไม่ใช่แค่เพียงยา 10 ขนิดนี้เท่านั้นที่แม่ท้องพึงต้องหลีกเลี่ยงให้ห่างไกล เพราะยาประกอบด้วยสารเคมีหลายหลายชนิดในเม็ดหนึ่ง หรือแม้เมื่อลูกได้คลอดแล้วก็ตามการหลีกเลี่ยงจากสารเคมีก็ยังจำเป็นเช่นกัน คุณแม่ควรใส่ใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ เพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัยที่สุด

อ้างอิง rakluke.com

บทความที่น่าสนใจ เพื่อการดูแลผิวลูกน้อย